ประวัติ ถ้ำผาต๊ะ บ้านโป่งแยง

ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

ในครั้งพุทธกาล ท่านได้เดินธุดงค์มาประเทศไทยเพื่อมาโปรดเมตตา และแสดงธรรมให้แก่ชาวโลกและเผยแผ่ศาสนา ท่านได้เดินทางมาถึงในป่าเขาแห่งนี้ ท่านก็เล็งเห็นอนาคตข้างหน้า ถิ่นนี้จะเป็นหมู่บ้านชาวไทยนับถือศาสนาพุทธ ท่านก็อธิฐานสังจจะบารมีเอามือขึ้นประทับแผ่นหินนี้ไว้เพื่อเป็นนิมิตรหมายแก่คนและเทวดา สืบทอดศาสนาต่อไป

ถ้ำผาต๊ะมีความหมายแก่คนโป่งแยงอย่างไร ขอบอกกล่าวเป็นนัยๆว่า ถ้ำคือรู หรือป่อง ผาคือหินผาที่ดูเรียบร้อย ต๊ะ คือ การประทับ ฝามือ รอยมือพระพุทธเจ้า บ้านโป่งแยง มาจากคำว่า ป่องแยง มาดูรอยพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้า

เรียบเรียงโดย นายสุวิทย์ สุริเย

26 มิถุนายน 2557 เวลา 07.30 น. 

คำไหว้พระหัตถ์ ว่านโม 3 จบ

อะหัง ภันเต พระหัสถังพุทธปรินิพพุตัมปิ ตังภะคะวันตัง สะระฯง คัจฉามิ อะภิวาเทมิ ฯ ว่า 3 จบ

พ่อแก่น     วงศ์เสือ  อายุ  92 ปี (สัมภาษณ์ เมื่อปี 2557)

เมื่ออายุ สิบกว่าปี บริเวณถ้ำผาต๊ะตอนนั้นเป็นป่ารก มีต้นไม้ใหญ่มากมาย (80กว่าปีที่แล้ว)

โครงการลุ่มน้ำแม่สามีการตั้งแคมป์บริเวณใกล้เคียงกับถ้ำผาต๊ะ ประมาณ ปี 2521

“ลุ่มน้ำแม่สา(ผาต๊ะ) แคมป์ป่าไม้

หินขนาดใหญ่ ดังกล่าวที่เป็นรอยพระพุทธหัตถ์ ได้ปรากฎตรงบริเวณที่อยู่ในปัจจุบันนั้นมานานแล้ว

ในสมัยก่อน มีผู้คนเข้าไปอยู่อาศัย คนแรกที่เข้าไปอยู่  เป็นคนจีนชาวบ้านจะเรียกว่า เจ๊ก มาสร้างครอบครัวอยู่บริเวณ ดังกล่าว มีการเผ่วถางป่าไม้ เพื่อปลูกข้าวไร่  จึงทำให้มีทางเดินเข้าไปบริเวณนั้น หลังจากนั้น  โครงการลุ่มน้ำแม่สา (ผาต๊ะ) จึงได้เข้าไปจัดการดูแลเรื่องป่าไม้ ผู้ที่เข้าไปทำไร่ เผ้วถางก็ถูกยึดคืน เพื่อจัดการเป็นพื้นที่ป่า อนุรักษณ์ ต่อไป ซึ่งได้ประกาศเป็นพื้นที่ ป่าไม้ เมื่อ ปี 07 

บริเวณดังกล่าวจึงถูกปล่อยรกล้าง เป็นเวลานาน  จนกระทั่ง นายแพทย์โกดม อารียา และ องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งแยงและประชาชนตำบลโป่งแยง  ได้เห็นความสำคัญของสถานที่ดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการพัฒนา  “รอยพระพุทธหัตถ์” ถ้ำผาต๊ะ” ให้เป้นแหล่งท่องเที่ยว และ เป็นสถานที่อนุรักษ์ป่าไม้ควบคู่กัน  จนกระทั่งปัจจุบัน ได้มีนักท่องเที่ยวและผู้ที่ศัทธา ใน “รอยพระพุทธหัตถ์” เข้ามาเยี่ยมเยือนและสัการะ อยู่ตลอดไม่ขาดสาย