บ้านปงไคร้ ชุมชนเล็กๆ ในผืนป่าใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของอำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ ชุมชนเล็กๆ ที่แทรกตัวอยู่ในพื้นที่ ที่แสนอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติที่จังหวัดเชียงใหม่ ในครั้งนั้นเปลี่ยนแปลงความคิดบางอย่าง และต่อเติมความคิดบางอย่างแก่เรามากมาย 

การเหยียบยืนอยู่ในพื้นที่ ที่ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมกับการท่องเที่ยวในชุมชนของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจเต้นแรงเสมอ และในขณะเดียวกัน มันทำให้เราสัมผัสได้ว่า เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อเที่ยวเพียงผิวเผิน เช็คอินบอกใครๆ หรือถ่ายรูปอวดเพื่อน แต่เราสามารถสัมผัสได้ว่า เรากำลังเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ของชุมชนเฉกเช่นชาวบ้านทุกคนด้วย

ปงไคร้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ดอกกล้วยไม้พันธุ์ฟ้ามุ่ย เป็นกล้วยไม้พันธุ์หายากที่ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ จนสามารถเพาะพันธุ์ เพาะเลี้ยง และปล่อยกล้วยไม้คืนสู่ป่าได้อย่างครบวงจร

นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนสามารถเข้าร่วมเวิร์คช็อป และเพาะพันธุ์กล้วยไม้ โดยชาวบ้านเป็นพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิดได้

ในขณะที่ช่วยกันคนละไม้ละมือในเรื่องการอนุรักษ์กล้วยไม้ การพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยวของชุมชนก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เมื่อมาเยือนบ้านปงไคร้แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศของขุนเขา ในบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมือนกระโดดเข้าไปอีกโลกใบหนึ่ง ที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ เพราะมีภูมิประเทศตั้งอยู่บนพื้นที่สูง โอบล้อมด้วยผืนป่า มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้สามารถปลูกพืชผัก และผลไม้เมืองหนาวได้ดี ดังนั้นเหล่านักท่องเที่ยวจึงสามารถอิ่มอร่อยไปกับอาหารจากพืชผักแสนเรียบง่าย น้ำพริกแสนอร่อย ผัดผักที่ชาวบ้านปลูกเอง สตรอเบอรี่สดๆ จากสวน สามารถนำมาทำแยมทานกับขนมปังง่ายๆ แต่อร่อยและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความใส่ใจของคนทำ

นอกจากนั้นสำหรับคนที่ชอบทำกิจกรรม ก็สามารถเดินชมหมู่บ้าน เดินไปตามสวนผักที่ชาวบ้านปลูกด้วยความรัก หรือจะเดินป่าในเส้นทางง่ายๆ นั่งรถขึ้นไปชมทะเลหมอกยามเช้า ลิ้มรสเมนูข้าวหลาม หรือดื่มกาแฟจากกระบอกไม้ไผ่ ติดต่อกิจกรรมโหนสลิง รวมทั้งสักการะพระธาตุศรีชลกรที่สวยงามท่ามกลางขุนเขาได้

ในส่วนของบ้านพัก ชาวบ้านได้ทำการจัดสรรการดูแลหมุนเวียนกัน ทั้ง 4 บ้าน ก็คือ บ้านสวนกลางดอย ม่อนดอยปงไคร้  กังหันบ้านดอยโฮมสเตย์ และบ้านไร่กลางดง  สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะ และมาน้อยคนได้ โดยสามารถติดต่อเบอร์ศูนย์กลางของหมู่บ้าน ได้ที่ 089 953 6993   

เสน่ห์ที่เรารู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มาเยือนบ้านปงไคร้ก็คือ การได้รับการต้อนรับ และดูแลอย่างใกล้ชิดจากบรรดาแม่ๆ พี่ๆ น้องๆ ในชุมชน คนที่บังเอิญพบเจอกันระหว่างเดินทาง คนที่สอนเราประดิษฐ์ดอกกล้วยไม้ ทำผิดก็ไม่ดุเรา พาเราไปสอนเพาะพันธุ์กล้วยไม้ในห้องแลบชุมชนง่ายๆ คนที่เราใช้เวลาด้วยกันไม่กี่ชั่วโมง แต่ทำไมเราถึง "ผูกพัน" และ มีความสุขที่ได้มีหัวใจไว้ "จดจำ" กัน 

การที่เราได้เดินทางและได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนด้วย เราว่าสิ่งนี้ก็คือความแตกต่างจากการท่องเที่ยวในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ การได้โอบกอดเมื่อจากลา และปาดน้ำตาอุ่นๆ กับคนที่เราไม่ได้เจอกันบ่อยๆ มันช่างเป็นช่วงเวลาที่น่ารักดี

หากเพื่อนๆ ท่านไหนเป็นคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในเมืองไทย และอยากสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยชุมชน เราอยากแนะนำบ้านปงไคร้ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้วยละกันนะ